นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Home
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด (“บริษัทฯ”) และบริษัทย่อย (รวมกันเรียกว่า “กลุ่มบริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยกลุ่มบริษัทฯ มีการกำกับดูแล และบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีสาระสำคัญดังนี้


1. ข้อมูลส่วนบุคคล

 

1.1 ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล

 

ในนโยบายฉบับนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลในการสแกนนิ้วมือ การสแกนใบหน้า) หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด





1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

 

กลุ่มบริษัทฯ อาจพิจารณาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ดังต่อไปนี้

 

(ก) ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อและนามสกุล วันเดือนปีเกิด สถานภาพสมรส ข้อมูลใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในเอกสารระบุตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลการจ้างงาน
(ข) ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ที่ติดต่อได้ ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร หมายเลขโทรศัพท์ ช่องทางติดต่อสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์ สถานที่ทำงาน
(ค) ตำแหน่งงาน ชื่อสถานที่ทำงาน หน่วยงาน หรือองค์กร
(ง) ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ เช่น อีเมล (E-mail) หมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser) และการใช้งานคุ้กกี้ (Cookies) รวมถึงประวัติการสนทนาในช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ

(จ) ข้อมูลที่ลูกค้าได้ให้ไว้เมื่อมีการติดต่อกับกลุ่มบริษัทฯ หรือร่วมกิจกรรมใด ๆ รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดกับกลุ่มบริษัท

(ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน เช่น รายได้ การกู้ยืมเงิน การชำระหนี้

(ช) ข้อมูลที่ระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน

(ซ) ข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงาน เช่น ความพึงพอใจของลูกค้า


2. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล


กลุ่มบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลโดยตรง และการนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลใด ๆ กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือคณะทำการเก็บรวบรวมในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม โดยกลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กลุ่มบริษัทฯ ระบุไว้โดยชัดแจ้ง



3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล


ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง และการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด กลุ่มบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือขณะทำการรวบรวมหากกฎหมายกำหนดไว้ให้ต้องขอความยินยอม โดยกลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กลุ่มบริษัทฯ ระบุไว้โดยชัดแจ้ง


ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น จากสื่อสาธารณะ หรือจากข้อมูลที่เป็นสาธารณะเฉพาะในกรณีที่มีความจำเป็นด้วยวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้

- จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับกลุ่มบริษัทฯ

- จากบริษัทประกันวินาศภัย และ/หรือบริษัทประกันชีวิตที่บริษัทเป็นคู่สัญญาในฐานะนายหน้าประกันวินาศภัย และ/หรือนายหน้าประกันชีวิต

- จากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด



4. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้


(ก) เพื่อประโยชน์ในการจัดหา หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ การให้หรือรับบริการในรูปแบบต่าง ๆ

(ข) เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงินและภาษี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญาของกลุ่มบริษัทฯ

(ค) เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอใช้บริการ รวมถึงกระบวนการสินเชื่อ

(ง) เพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ของกลุ่มบริษัทฯ หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทนหรือบุคคลใดที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม                บริษัทฯ

(จ) เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงคุณภาพในการดำเนินงาน คุณภาพการให้บริการ และการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ

(ฉ) เพื่อการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการ และวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน

(ช) เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดของกลุ่มบริษัทฯ

(ซ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมการเข้าถึง การป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ และเพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาความปลอดภัยของ

บริเวณอาคารทั้งภายนอกและภายในอาคาร รวมถึงพื้นที่ของกลุ่มบริษัทฯ

(ฌ) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต


ข้อมูลส่วนบุคคลที่กลุ่มบริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวมรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ ทั้งนี้ หากลูกค้าท่านใดไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว อาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรืออาจส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ ไม่สามารถบริการหรือจัดการสัญญา หรืออำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าได้


ทั้งนี้ หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล กลุ่มบริษัทฯ จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงจัดให้มีการบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน



5. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาการเก็บรักษา ได้แก่ ระยะเวลาที่กลุ่มบริษัทฯ ยังมีความสัมพันธ์กับลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ และอาจเก็บรักษาต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นใดตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของกลุ่มบริษัทฯ


ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่คาดหมายได้ตามมาตรฐานการเก็บรวบรวม เช่นอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี



6. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล


กลุ่มบริษัทฯ ได้กำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสม โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสูงสุดตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ และตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย การใช้ การเปลี่ยนแปลง หรือการแก้ไข และการป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย



7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


7.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับกลุ่มบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือโดยสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย


7.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของเจ้าของข้อมูลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงขอให้กลุ่มบริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อกลุ่มบริษัทฯ ได้


7.3 สิทธิในการขอให้ส่งข้อมูลหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้กลุ่มบริษัทฯ ทำการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับกลุ่มบริษัทฯ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด



7.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บ การรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลได้ตามที่กฎหมายกำหนด



7.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้กลุ่มบริษัทฯ ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด



7.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้กลุ่มบริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด



7.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง



ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลเห็นว่าข้อมูลที่กลุ่มบริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้อง หรือมีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้กลุ่มบริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และจะไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด



7.8 สิทธิในการรับทราบในกรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล



กลุ่มบริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวนแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับความคุ้มครองอย่างเหมาะสม



7.9 สิทธิในการร้องเรียน



เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากเห็นว่ากลุ่มบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ เมื่อได้รับคำร้องขอดังกล่าวแล้ว กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องดังกล่าวได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อจำกัดโดยเลือกที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะอย่างอาจส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถรับบริการจากกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ร่วมกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้บริการใด ๆ ได้ หากเจ้าของข้อมูลไม่ยินยอมให้ข้อมูลตามที่กลุ่มบริษัทฯ ร้องขอตามความจำเป็น



8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


กลุ่มบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทฯ หรือหน่วยงานอื่นใดที่เป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับกลุ่มบริษัทฯ ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ หรือให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ หรือตามความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกลุ่มบริษัทฯ หรือกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการของกลุ่มบริษัทฯ หรือเปลี่ยนโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ และบุคคลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบ คำสั่งของหน่วยงานราชการ และ/หรือหน่วยงานอื่นใดที่มีหน้าที่กำกับดูแล ตลอดจนคำสั่งของหน่วยงานตุลาการให้กลุ่มบริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับในระหว่างการส่งผ่านข้อมูลในทุกขั้นตอนและกำหนดมิให้ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่เหตุดังต่อไปนี้สามารถกระทำได้

(1) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

(2) เป็นไปเพื่อประโยชน์กับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ใช้บริการท่านอื่น

(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาคดีของศาล

(4) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย


ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล กลุ่มบริษัทฯ จะดำเนินการตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด



9. วิธีการติดต่อ


ในกรณีที่มีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อกลุ่มบริษัทฯ ตามช่องทางดังต่อไปนี้

 

ฝ่ายบริการข้อมูลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท รีโซลูชั่น เวย์ จำกัด

สถานที่ติดต่อ: 102/10  หมู่ 4  ถนนกำแพงเพชร 6  แขวงตลาดบางเขน  เขตหลักสี่  กรุงเทพฯ 10210

เบอร์โทรศัพท์ : 02-821-1055 Line id : @rway

Email : This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it


 

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทฯ อาจทำการพิจารณาทบทวนเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยหากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง กลุ่มบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วยการเผยแพร่ผ่านประกาศของบริษัทฯ อย่างเหมาะสม


นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป